ร่วมมีประสบการณ์ - ร่วมมีประสบการณ์

การนั่งทำสมาธิแบบเซน ตอนเช้าตี 5 ที่วัดไคเก็นจิ
: 開眼寺

นางาโนตอนเหนือ


คำบรรยาย

คุณชิบาตะคือพระที่ประจำอยู่ที่วัดไคเก็นจิ ในอำเภอชิกุมะ สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ และเป็นผู้เปิดการฝึกนั่งทำสมาธิแบบเซน เป็นประจำทุกเช้าตอนตี5


คำแนะนำ

(การฝึกทำสมาธิแบบเซน สามารถทำได้ทุกเวลา ทุกที่ แต่สิ่งที่ทำให้เลือกทำสมาธิที่นากาโน่ คือ ความเงียบสงบของชนบทที่เหมาะสำหรับการทำสมาธิเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ที่นี่ยังมีบางอย่างที่พิเศษเฉพาะตัวเพื่อให้คุณได้ฝึกประสบการณ์ การทำสมาธิแบบเซน) ในพื้นที่แถบยาวาตะของอำเภอชิกุมะ พื้นที่ป่าไม้ที่ขนานกับเส้นทางที่เคยใช้ในยุคศักดินา เส้นทาง”เซนโคจิ ไคโด “ มีวัดซึ่งอยู่ระหว่าง อำเภอมัตสึโมโต้และอำเภอนากาโน่ ก็คือ วัดไดเก็นจิ “ไคเก็น” หมายถึง “เปิดตาของคุณขึ้น” แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามชื่อของวัดแห่งนี้มีความเหมาะสมกับวัดแห่งนี้เป็นอย่างดี คุณสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับวัดนี้ได้ที่ เว็บไซต์ www.shinano33.com (วัดแห่งนี้เป็นถูกจัดวัดอันดับที่13 ของแคว้นชินาโน่(นากาโน่) ที่มีผู้เดินทางมาแสวงบุญในอดีตและเป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานหลายร้อยปี มีวิหารหลังใหญ่โต คาดว่าถูกสร้างขึ้นเมื่อ400 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป วัดที่เคยยิ่งใหญ่แห่งนี้ก็ตกอยู่ในสภาพที่ไม่ได้ถูกใช้งาน โชคดีที่มีชายคนหนึ่ง ชื่อ คุณชิบาตะ ซึ่งเกษียณจากการทำงานในต่างประเทศ(คุณชิบาตะเคยอาศัยอยู่ที่อเมริกานับสิบปี) หลังจากกลับมา เขาได้ย้ายเข้าไปอยู่ที่วัด และเริ่มทำการบำรุงซ่อมแซมสถานที่ ทำให้วัด ไคเก็นจิ กลับมายิ่งใหญ่และสง่างามเหมือนเดิม ในปี2005 เขาได้สร้างห้องทำสมาธิแบบเซนขึ้น และวัดแห่งนี้ได้เริ่มเปิดขึ้นอย่างแท้จริง คุณชิบาตะได้นั่งทำสมาธิแบบเซนในทุกเช้าตอนตี5 เขายินดีต้อนรับผู้ที่ต้องการเข้าร่วมทำสมาธิทุกคน สำหรับผู้ที่เริ่มฝึก เขายินดีที่จะชี้แนะเทคนิคเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการนั่งทำสมาธิแบบเซน โดยปกติการนั่งสมาธิจะทำต่อเนื่องไปจนถึงเวลา 6 โมงเช้า รวมการหยุดพัก 1ครั้ง หลังจากนั้น คุณชิบาตะจะเชิญแขกดื่มน้ำชาและพูดคุยกันเล็กๆน้อยเดี่ยวกับเรื่องหลักปรัชญาของพุทธศาสนา และหรืออาจจะรวมตัวกันที่บริเวณพื้นที่เก่าแก่ของวัดเพื่อสวดพระมนต์ซึ่งอยู่ในห้องถัดไป
ฉันตื่นตั้งแต่ตอนตี4 เพื่อที่จะไปทำสมาธิที่วัดพุทธแห่งนั้น (ฉันตั้งใจจะถ่ายรูปบางส่วนไว้ด้วย แต่เนื่องจากเป็นเวลาเช้ามาก ฉันลืมคว้ากล้องของฉันออกมาด้วย) เมื่อเราไปที่นั่นพระจะอธิบายวิธีการนั่งว่าต้องนั่งอย่างไร (นั่งหลังตรงขาไขว้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนั่งโดยพักฝ่าเท้าแต่ละข้างให้อยู่ตรงข้ามกับต้นขา) วิธีการกุมมือ (วางบนตักเล็กน้อย แล้ววางมือขวาทับมือซ้าย ยกฝ่ามือขึ้นเล็กน้อยให้นิ้วโป้งทั้งสองข้างสัมผัสกัน ) วิธีการหายใจเข้าออก( ให้ริมฝีปากปิด หายใจออก 8 วินาที และหายใจเข้า 4 วินาที ) และวิธีการพักตา (ลืมตาครึ่งหนึ่งเพื่อให้เกิดความสมดุลในการสะท้อนความคิดจากทั้งภายในและภายนอก)และเขายังได้อธิบายว่าควรจะต้องทำอย่างไรหากคุณไม่สามารถควบคุมสมาธิได้ คุณสามารถร้องขอให้เขาช่วยตีลงบนไหล่ (โดยคุณวางมือของคุณไว้ในตำแหน่งเดียวกับเวลาพนมมือสวดมนต์) เหตุผลบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้การกระทำแบบนี้ คือ ทำให้ความฟุ้งซ่านและสิ่งรบกวนใจของคุณทั้งหมดหายไป โดยการฟาดลงที่บ่า อย่างแรง ฉันคิดว่าเขาจะบอกเราว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นกับเราและฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก กับการทำสมาธิ เราเข้าไปในห้องทำสมาธิ ซึ่งมีเบาะรองนั่งแบบญี่ปุ่นวางเรียงไว้สองแถว แถวละฝั่ง ฉันนั่งลงในแถวที่ได้รับการชี้แนะ จัดวางตำแหน่งของมือและเปลือกตาในท่าที่คิดว่าควรจะเป็น และเริ่มทำสมาธิโดยการกำหนดลมหายใจ – หายใจออก……..หายใจเข้า …. หายใจออก …….หายใจเข้า .ฉันไม่ได้ทำสมาธิสงบนิ่งแบบนี้มาซักพักหนึ่งแล้ว ฉันได้ยินเสียงลมที่แผ่วเบาพัดผ่านต้นไม้ เสียงร้องเซ็งแซ่ของนก และ เสียงบางอย่างที่มาจากธรรมชาติ ความเงียบสงบให้ทั้งความรู้สึกสบายและความรู้สึกอึกอัด หลังจากนั้น พระสงฆ์ได้ลั่นระฆังและหยิบไม้เท้าขนาดใหญ่ขึ้นมาและเดินไปยังผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับฉัน ฉันมองผ่านดวงตาซึ่งลืมไว้เพียงครึ่งหนึ่ง เห็นผู้ชายคนดั่งกล่าวอยู่ในท่าพนมมือสวดมนต์ และถูกฟาดอย่างแรง 4ครั้ง โดยฟาดลงบนบ่าทั้งสองข้าง ข้างละสองครั้ง และหลังจากนั้น ผู้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉันอีกสองคนก็โดนเหมือนๆกัน ฉันเริ่มรู้สึกสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านั้นฉันไม่ได้ยินเสียงอะไรมาก่อนเลย หลังจากนั้น พระสงฆ์ก็เดินอย่างแผ่วเบามาหยุดที่ตรงหน้าของฉัน ฉันมองตามและขอร้องอย่างสุภาพให้เขาตีฉัน เขา ฟาด ฟาด ฟาด ฟาด มันทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงความจริงบางอย่างที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ฉันรู้สึกตกใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น หลังจากช็อคกับความจริงที่เกิดขึ้นและฉันเริ่มเข้าใจได้ว่าฉันโดนฟาดโดยพระสงฆ์ ฉันเริ่มรวบรวมสมาธิและกำหนดลมหายใจเข้าออกอีกครั้ง แต่ในใจของฉันยังคงเริ่มเข้าสู่ความฟุ้งซ่านและขาดสมาธิ ฉันตระหนักได้ถึงความแตกต่างระหว่าง ความเชื่อเรื่องจิตวิญญาณและความเลื่อมใสในศาสนา ระหว่าง พุทธศาสนา และคริสต์ศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาที่ฉันนับถือ ฉันรู้สึกสับสนว่าเรานั่งทำสมาธิอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว จนกระทั่งพระสงฆ์ลั่นระฆังอีกครั้ง เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่า กระทำสมาธิสิ้นสุดลงแล้ว เวลายี่สิบนาทีผ่านไปแล้ว และมันทำให้ฉันรู้สึกได้ว่าที่แท้จริงแล้วมันเป็นการยากจริงๆที่จะชำระจิตใจของฉันไม่ให้ตกอยู่ในความฟุ้งซ่าน ฉันยืนขึ้น ผ่อนคลายโดยการเหยียดขาออก ฉันเดินออกมาพร้อมด้วยความรู้สึกวิเศษอย่างบอกไม่ถูกที่ได้เป็นสาวกในการนั่งทำสมาธิ และประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครนี้ ที่ฉันสัมผัสได้ที่นี่ที่เดียว ในญี่ปุ่น (A.M.,อเมริกา)


รายละเอียด

  • 20คน
ชั่วโมง
ตี5 ถึง 6 โมงเช้า หรือ เวลาอื่นๆขึ้นอยู่กับการเจรจา
วันที่
ไม่มีเพราะที่นี่จะเปิดทำสมาธิทุกวัน
ราคาทุน / ราคาค่าเข้าชม
ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่อาจจะบริจาคเงินเล็กๆน้อยๆให้แก่วัดเพื่อทำบุญ
จอง
ไม่จำเป็น(แนะนำให้ติดต่อกับคุณชิบาตะ ถ้าหากเขาไม่อยู่ แขกอาจจะได้ทำสมาธิโดยอิสระ)
จำนวนผู้เข้าร่วม
1-20 คน
ภาษาต่างประเทศ
ภาษาอังกฤษ

หมายเหตุ

คุณชิบาตะ สามารถพูดภาษาอังกฤษเบื้องต้นได้ เนื่องจากเริ่มตั้งเช้ามืด ขอแนะนำให้คุณหาที่พักซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับบริเวณนั้น เช่น ที่ โทกุระ คามินามาดะ ออนเซ็น เป็นต้น


ติดต่อกับเรา

tel : +81(0)26-272-5019fax : +81(0)26-272-5546เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ


เข้าถึงและสถานที่ตั้ง

โดยรถไฟ
ทางรถไฟสายชินาโน่ โดยรถยนต์ จาก โคโชกุ IC บนทางด่วนสายนากาโน่ เอ็กเพรสเวย์ มุ่งไปทางใต้อีก2กม.เพื่อเข้าสู่ถนนสายที่ 18 และเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนสายที่403 ข้ามแม่น้ำชิกุมะและไปตามทางโค้ง ประมาณ 3กม. จะเห็นแยกไฟแดงโรงเรียนประถม “ฮารุตะ ฮิกาชิ” "Haruta Elementary School higashi" เลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนสาย403อีกประมาณ 2.4กม, ผ่านโรงเหล้าสาเก จากนั้น ถนนจะโค้งไปทางซ้าย คุณไม่ต้องไปทางซ้ายตามถนน แต่ให้คุณตรงไปเพื่อเข้าไปยังถนนสายเล็กๆแล้วข้ามทางรถไฟไป วัดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือในระยะ ประมาณ 150 เมตร
โดยรถไฟ จากสถานียาชิโร่ โดยรถไฟสายชินาโน่ ให้ต่อแท็กซี่ไปอีกประมาณ 15 นาที
โดยรถยนต์
โคโชกุ IC 
ที่อยู่
57 ยาวาตะ นากาฮาร่า อำเภอชิกุมะ จังหวัดนากาโน่ 387-0023  387-0023

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

สถานที่ท่องเที่ยว

สถานที่พัก

ร้านอาหาร

ร่วมมีประสบการณ์


ขึ้นไปบนสุด